Table of Contents
Toggleวันนี้คาดการ เรดาร์ฝน ยโสธร หมายถึงการพยากรณ์สภาพอากาศในอนาคต ในการทํานายสภาพอากาศปัจจุบัน ของ จ.ยโสธร
รายงานเรดาร์ฝน - ยโสธร : อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร 16.00 นาฬิกา.
เรดาร์ฝน ปัจจุบัน อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ดังนี้...
รายงานเรดาร์ฝน พื้นที่ใกล้เคียง จ.ยโสธร
การข่าวสารเรดาร์ฝน ผ่านทวิตเตอร์ของ กรมอุตุนิยมวิทยา
เช็คเรดาร์ฝน พื้นที่ใกล้เคียงได้ทั่วไทย เลือก จังหวัด....
เช็คเรดาร์ฝน ได้ทักทายได้แล้วที่นี่ เพียงเลือกจังหวัดที่คุณต้องการ กดปุ่มเช็คเรดาร์ฝนระบบจะแสดงเรดาร์ฝนตามที่คุณเลือก เพียงทำตามขั้นตอนนี้คุณก็สามารถเช็คเรดาร์ฝนได้แล้ว โดยข้อมูลพยากรณ์ มาทางกรมอุตุนิยมวิทยาของประเทศไทยการเรดาร์ฝนจะพยากรณ์เป็นช่วงๆตามกรมอุตุนิยมวิทยาที่กำหนดไว้
เรดาร์ฝนเส้นทางของพายุ ข้อมูลมาจากกรมอุตุนิยมวิทยา เลื่อนแผนที่ไปให้ดูทีละจังหวัดได้เลย
พยากรณ์ เช็คข้อมูลแผ่นดินไหว ทั่วประเทศเช่น ยโสธร เลื่อนแผนที่ไปให้ดูทีละจังหวัดได้เลย ข้อมูลมาจากกรมอุตุนิยมวิทยา
ฤดูกาลของประเทศไทย
ประเทศไทยโดยทั่ว ๆ ไปสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู ดังนี้
1. ฤดูร้อน เริ่มต้นประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
2. ฤดูฝน เริ่มต้นประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม
3. ฤดูหนาว เริ่มต้นประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์
ฤดูร้อนคือเริ่มต้นประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และเป็นระยะที่ขั้วโลกเหนือหันเข้าหาดวงอาทิตย์ โดยเฉพาะเดือนเมษายนบริเวณประเทศไทย มีดวงอาทิตย์อยู่เกือบตรงศรีษะในเวลาเที่ยงวัน ทำให้ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์เต็มที่ สภาวะอากาศจึงร้อนอบอ้าวทั่วไป ในฤดูนี้แม้ว่าโดยทั่วไปจะมีอากาศร้อนและแห้งแล้ง แต่บางครั้งอาจมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบน ทำให้เกิดการปะทะกันของมวลอากาศเย็น กับมวลอากาศร้อนที่ปกคลุมอยู่เหนือประเทศไทย ซึ่งก่อให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง หรืออาจมีลูกเห็บตกก่อให้เกิดความเสียหายได้ พายุฝนฟ้าคะนองที่เกิดขึ้นในฤดูนี้มักเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าพายุฤดูร้อน
ลักษณะอากาศในฤดูร้อนพิจารณาจากอุณหภูมิสูงสุดของแต่ละวัน
โดยมีเกณฑ์การพิจารณาดังนี้
- อากาศร้อน อุณหภูมิระหว่าง 35.0 ซ. ถึง 39.9 ซ.
- อากาศร้อนจัด อุณหภูมิตั้งแต่ 40.0 ซ. ขึ้นไป
ฤดูฝน คือ เริ่มต้นประมาณกลางเดือนพฤษภาคม เมื่อมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย และร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านประเทศไทย ทำให้มีฝนชุกทั่วไป ร่องความกดอากาศต่ำนี้ปกติ จะพาดผ่านภาคใต้ในระยะต้นเดือนพฤษภาคม แล้วจึงเลื่อนขึ้นไปทางเหนือตามลำดับ จนถึงช่วงประมาณปลายเดือนมิถุนายน จะพาดผ่านอยู่บริเวณประเทศจีนตอนใต้ ทำให้ฝนในประเทศไทยลดลงระยะหนึ่ง และเรียกว่าฝนทิ้งช่วง ซึ่งอาจนานประมาณ 1 ถึง2 สัปดาห์หรือบางปีอาจเกิดขึ้นรุนแรง และมีฝนน้อยนานนับเดือน ในเดือนกรกฎาคมปกติร่องความกดอากาศต่ำ จะเลื่อนกลับลงมาจากทางตอนใต้ของประเทศจีน พาดผ่านบริเวณประเทศไทยอีกครั้ง ทำให้มีฝนชุกต่อเนื่อง และปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฏาคมเป็นต้นไป จนกระทั่งมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดเข้ามาปกคลุมประเทศไทย แทนที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ประมาณกลางเดือนตุลาคม ประเทศไทยตอนบนจะเริ่มมีอากาศเย็นและฝนลดลง โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เว้นแต่ภาคใต้ยังคงมีฝนชุกต่อไปจนถึงเดือนธันวาคม และมักมีฝนหนักถึงหนักมากจนก่อให้เกิดอุทกภัย โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก ซึ่งจะมีปริมาณฝนมากกว่าภาคใต้ฝั่งตะวันตก อย่างไรก็ตามการเริ่มต้นฤดูฝนอาจจะช้าหรือเร็วกว่ากำหนดได้ประมาณ 1 - 2 สัปดาห์
เกณฑ์การพิจารณาปริมาณฝนในระยะเวลา 24 ชั่วโมงของแต่ละวันตั้งแต่เวลา 07.00 น.
ของวันหนึ่งถึงเวลา
07.00 น.ของวันรุ่งขึ้นตามลักษณะของฝนที่ตกในประเทศที่อยู่ในเขตร้อนย่านมรสุมมีดังนี้
- ฝนวัดจำนวนไม่ได้ ปริมาณฝนน้อยกว่า 0.1 mm
- ฝนเล็กน้อย ปริมาณฝนระหว่าง 0.1 ถึง 10.0 มม.
- ฝนปานกลาง ปริมาณฝนระหว่าง 10.1 ถึง 35.0 มม.
- ฝนหนัก ปริมาณฝนระหว่าง 35.1 ถึง 90.0 มม.
- ฝนหนักมาก ปริมาณฝนตั้งแต่ 90.1 มม.
ฤดูหนาว คือ เริ่มต้นประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดปกคลุมประเทศไทยตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนาน 1 ถึง 2 สัปดาห์ เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูจากฤดูฝนเป็นฤดูหนาว อากาศแปรปรวน ไม่แน่นอน อาจเริ่มมีอากาศเย็น หรืออาจยังมีฝนฟ้าคะนอง โดยเฉพาะบริเวณภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออกลงไปซึ่งจะหมดฝน และเริ่มมีอากาศเย็นช้ากว่าภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศในฤดูหนาวพิจารณาจากอุณหภูมิต่ำสุดของแต่ละวัน
โดยมีเกณฑ์การพิจารณาดังนี้
- อากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 8.0 ซ.
- อากาศหนาว อุณหภูมิระหว่าง 8.0 ซ. ถึง 15.9 ซ.
- อากาศเย็น อุณหภูมิระหว่าง 16.0 ซ. ถึง 22.9 ซ.
สภาพอากาศเปลี่ยนบ่อยควรทำยังไง???
ช่วงนี้ประเทศไทยสภาพอากาศแปรปรวน ทั้งฝนตก ทั้งร้อน ทั้งหนาว อากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลันเช่นนี้ มักทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ภูมิต้านทานลดต่ำลง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็ก ผู้สูงวัย และผู้ที่เป็นโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ หอบหืด ถุงลมโป่งพอง รพ.พญาไท 2 มีคำแนะนำเกี่ยวกับการสังเกตอาการ และการดูแลตนเองให้แข็งแรง เพื่อให้สามารถรับมือกับโรค..ที่อาจเกิดขึ้น!
คุณควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณวางแผนที่จะอยู่กลางแจ้ง ต่อไปนี้เป็นบางสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง:
1.ตรวจสอบการ เรดาร์ฝน: ก่อนออกเดินทาง ตรวจสอบการเรดาร์ฝน เพื่อรับทราบสิ่งที่จะเกิดขึ้น วิธีนี้จะช่วยให้คุณแต่งตัวได้เหมาะสมและวางแผนกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม2.สวมเสื้อผ้าเป็นชั้นๆ: สวมเสื้อผ้าเป็นชั้นๆ ช่วยให้คุณปรับตัวตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงได้ง่าย สวมชั้นในน้ำหนักเบาและระบายอากาศที่สามารถเพิ่มหรือถอดได้ง่ายตามต้องการ
3.เตรียมอุปกรณ์ที่เหมาะสมไปด้วย เรดาร์ฝน เปลี่ยนแปลงบ่อย: หากคุณคาดว่าฝนจะตก ให้นำร่มหรือเสื้อกันฝนไปด้วย หากคุณคาดว่าจะมีอากาศหนาว ให้นำหมวก ถุงมือ และผ้าพันคอไปด้วยเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น
4.ดื่มน้ำให้เพียงพอ: สิ่งสำคัญคือต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน นำขวดน้ำติดตัวไปด้วยและดื่มน้ำมากๆ ตลอดทั้งวัน
5.รับทราบข้อมูล เรดาร์ฝน อยู่เสมอ: หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีแนวโน้มที่จะเกิดสภาพอากาศเลวร้าย อย่าลืมติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการแจ้งเตือนหรือคำเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศ ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและใช้มาตรการป้องกันที่จำเป็นเพื่อความปลอดภัย