ควรเลือกทำตามความฝัน หรือเลือกคนรัก/ครอบครัว ? – สวัสดีครับพี่ๆน้องๆชาวพันทิป ผมมีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับ แผนอนาคตการเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง(ที่ตปท.) vs ความสัมพันธ์กับแฟน อยากจะรบกวนขอความเห็นหน่อยครับ ควรเลือกทำตามความฝัน หรือเลือกคนรัก/ครอบครัว ? – ผมอยากทราบว่าชีวิตของคนเราแท้จริงแล้วอะไรคือสิ่งที่ควรค่าแก่การไขว่ขว้าไว้ครับ? ปจบ.ผมมีความเชื่อว่าชีวิตของคนเราควรจะต้องทำตามเป้าหมาย ความฝัน ของชีวิตครับ ผมเชื่อว่าการที่ผมได้ไปเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางที่ตปท. ได้มีโอกาสเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เก่ง มีความสามารถในระดับแนวหน้า มีโอกาสทำงานวิจัยระดับ world class คือเป้าหมายของชีวิตครับ แม้ว่าจะประสบค.สำเร็จดั่งใจหวังหรือไม่ก็ตาม เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมเลือกที่จะทำเอง และอย่างน้อยก็ได้ทำมันแล้ว อย่างไรก็ตามการจะไปทำตามความฝันได้นั้นมันมีสิ่งที่ต้องแลกมาครับ (ห่างไกลจากแฟน/คนรัก และครอบครัว) ดังนั้นผมจึงตั้งคำถามต่อว่าหากเราแลกการเดินตามเป้าหมาย กับสิ่งที่ต้องแลกมาจะคุ้มค่าไหม? กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ผมก็ตั้งคำถามด้วยว่า “อะไรคือสิ่งที่ควรค่าแก่การที่จะไปไขว่ขว้ามาในชีวิต? ” การประสบความสำเร็จในเป้าหมาย/หน้าที่การงาน? ก.มีความสุข? ก.ได้อยู่กับครอบครัว/คนรัก? หรือการมีลูก มีครอบครัวที่สมบูรณ์? (เพราะว่าเร็วๆนี้ แฟนพูดถึงเรื่องอยากมีลูก ส่วนผมไม่อยากมี จึงทะเลาะกัน ความเห็นไม่ตรงกัน) เพื่อที่ว่าผมจะได้วางแผนให้สอดคล้องกับความต้องการในชีวิตของผมเองในอนาคตครับ ปัจจุบันผมมีอาชีพเป็นแพทย์ทั่วไปยังไม่ได้เรียนต่อแพทย์เฉพาะทางครับ ซึ่งก็ได้วางแผนไว้ตั้งแต่ตอนเรียนจบหมอ 6 ปีใหม่ๆว่าจะไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ตปท. ตอนนี้ก็ทำงานเป็นหมอไปด้วย+เรียนภาษาที่ 3 ไปด้วยประมาณ 3 …
SCB , TTB , ธกส. , กสิกร ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี มีผล 1 พ.ย.นี้ –
SCB , TTB , ธกส. , กสิกร ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี มีผล 1 พ.ย.นี้ – SCB ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี มีผลตั้งแต่ 1 พ.ย.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ที่มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.50% มาอยู่ที่ 2.25% ต่อปี พร้อมขยายมาตรการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางถึงสิ้นปี 67 SCB , TTB , ธกส. , กสิกร ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี มีผล 1 พ.ย.นี้ – นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวไม่สูงนักใกล้เคียงกับที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินไว้และอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายภายในสิ้นปี ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารไทยพาณิชย์จึงได้พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้ของลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการภาคธุรกิจ SCB , TTB , ธกส. , กสิกร ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี มีผล 1 พ.ย.นี้ – โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.575% เป็น 7.325% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.30% เป็น 7.175% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.05% เป็น 6.925% ต่อปี ก่อนหน้านี้ ธนาคารได้ออกมาตรการพิเศษในการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคลและ SME รายย่อย ตั้งแต่ 16 พ.ค.-15 พ.ย.2567 นั้น ธนาคารได้พิจารณาขยายมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวออกไปจนถึง 31 ธ.ค.2567 Cr. https://www.posttoday.com/business/financial/714815 นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยว่า TTB มีความห่วงใยลูกค้า พร้อมขานรับมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 2.50% เหลือ 2.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวและเป็นการช่วยลดภาระหนี้ให้กับประชาชน ดังนั้น TTB จึงประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทสูงสุด 0.25% ต่อปี ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย MOR ลดลง 0.25% ต่อปี ส่วนอัตราดอกเบี้ย MLR และอัตราดอกเบี้ย MRR ลดลง 0.125% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2567 เป็นต้นไป สำหรับลูกค้ารายย่อยและ SME ในกลุ่มเปราะบาง TTB ตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและสภาพเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มนี้มาก่อนหน้า นอกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ธนาคารยังมีการต่ออายุมาตรการออกไปจนถึง 31 ธ.ค.2567 จากเดิมที่จะครบกำหนดในวันที่ 15 พ.ย.2567 เพื่อช่วยพยุงสภาพคล่องและลดภาระหนี้ให้กับลูกค้ากลุ่มเปราะบางให้ได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราที่ประกาศอีก 0.25% จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ จะทำให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว มีอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงรวม 0.375-0.50% ต่อปี ทั้งนี้ ธนาคารยังมีแผนที่จะปรับมาตรการเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางตามความเหมาะสม เมื่อมาตรการดังกล่าวสิ้นสุดลง สำหรับด้านเงินฝาก เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าเงินออมที่กังวลว่าดอกเบี้ยเงินฝากจะทยอยปรับลดลง ทาง TTB มีบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ อัพ แอนด์ อัพ 24 เดือน ที่ตอบโจทย์ลูกค้าเงินฝากทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพราะให้ดอกเบี้ยสูงตั้งแต่ 6 เดือนแรก เริ่มต้นที่ 1.5% ต่อปี และรับดอกเบี้ยสูงขึ้นทุกๆ 6 เดือน โดยรับดอกเบี้ยสูงสุด 2.0% ต่อปี และยังสามารถถอนก่อนครบกำหนดได้หากมีความจำเป็นในการใช้เงิน จึงเหมาะกับทั้งผู้ที่ฝากระยะสั้นก็จะได้รับดอกเบี้ยสูง และหากฝากต่อเนื่องก็จะเป็นการล็อกเรทอัตราดอกเบี้ยที่ดีในระยะยาว TTB พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ ตามความเหมาะสม ตลอดจนมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมให้ลูกค้าสามารถจัดการภาระหนี้ที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนผ่านโซลูชันรวบหนี้ และโซลูชันโอนยอดหนี้ เพื่อให้ดอกเบี้ยต่ำลง ช่วยลดภาระดอกเบี้ย เพิ่มสภาพคล่อง …
อิหร่าน ถึงขนาดบินไปเบรุต ทั้งที่อิสราเอลโจมตีเลบานอนอย่างหนัก นี้มันหมูไม่กลัวน้ำร้อนนิหน่า อิสราเอลมองตาปริบปริบ –
อิหร่าน ถึงขนาดบินไปเบรุต ทั้งที่อิสราเอลโจมตีเลบานอนอย่างหนัก นี้มันหมูไม่กลัวน้ำร้อนนิหน่า อิสราเอลมองตาปริบปริบ – ปธ.รัฐสภาอิหร่านขับเครื่องบินเยือนเลบานอนอย่างเป็นทางการด้วยตนเอง* ตามคำเชิญของ ปธ.รัฐสภาเลบานอน อิหร่าน ถึงขนาดบินไปเบรุต ทั้งที่อิสราเอลโจมตีเลบานอนอย่างหนัก นี้มันหมูไม่กลัวน้ำร้อนนิหน่า อิสราเอลมองตาปริบปริบ – ปธ.สภาอิหร่านเดินทางเยือนทั้งที่เลบานอนยังถูกโจมตีทางอากาศโดยอิสราเอล และน่านฟ้าเลบานอนยังไม่ปลอดภัย ปธ.รัฐสภาอิหร่าน นายกาลีบาฟ เยือนพื้นที่ดาฮียา กรุงเบรุต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อิสราเอลถล่มอย่างหนักมาโดยตลอด โดยไม่กลัวภัยคุกคามจากอิสราเอล อิหร่าน ถึงขนาดบินไปเบรุต ทั้งที่อิสราเอลโจมตีเลบานอนอย่างหนัก นี้มันหมูไม่กลัวน้ำร้อนนิหน่า อิสราเอลมองตาปริบปริบ – ในขณะที่อิสราเอลกำลังหาทางแก้แค้นอิหร่านแต่ ครม.ไม่อนุมัตินั้น การเดินทางเยือนครั้งนี้ถือเป็นการแสดงพลังและส่งสัญญาณชัดเจนของอิหร่านไปยังอิสราเอล ทำให้ชาวเลบานอนที่สนับสนุนเฮซฯ ในเลบานอนดีใจที่ไม่ได้ต่อสู้โดยลำพัง 1 แล้วไปบอกว่า อิหร่านถล่มจรวด คนอิสราเอลตายไม่เท่าไหร่ อ้าว ปาเลสไตน์ มีระบบเตือนภัย ไอรอนโดม หลุมหลบภัย เหมือนอิสราเอลไหมละ แล้วอิหร่านบอกเอง ยิงฐานทัพ สถานีแก๊ส ไอรอนโดม 2. นี้ถ้า อิหร่านไม่พัฒนา ขับเครื่องบินมา โดนสอยแน่ หรือโดนถล่ม ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคมไปแล้ว พอดีไม่อ่อน เหมือนเลบานอน ปาเลสไตน์ อิสราเอลเลยเบรคเอบีเอส 3. บุกฮิบาเลาะห์ ยังไม่ทันใจกลางเมืองเลยสักที่ กี่วันแล้ว 2 …
ROSÉ & Bruno Mars “APT.” ยังคงอยู่อันดับ 1 บนชาร์ต Spotify Global โดยมียอดสตรีม 14,596,132 ครั้ง –
ROSÉ & Bruno Mars “APT.” ยังคงอยู่อันดับ 1 บนชาร์ต Spotify Global โดยมียอดสตรีม 14,596,132 ครั้ง – “APT.” ของ ROSÉ และ Bruno Mars ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตรายวันของ Spotify ทั่วโลกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยมียอดสตรีมที่กรองแล้วอยู่ที่ 14,596,132 (+416,022) ครั้ง ROSÉ & Bruno Mars “APT.” ยังคงอยู่อันดับ 1 บนชาร์ต Spotify Global โดยมียอดสตรีม 14,596,132 ครั้ง – Spotify US ทะลุ 2 ล้านครั้ง ROSÉ & Bruno Mars “APT.” …
มิน พีชญา โดนจับ ในผู้ต้องหาฉ้อโกงประชาชน จะนำตัวฝากขังศาลอาญาต่อไป ถ้าพ้นโทษ จะมีโอกาสมาเล่นช่อง 7 ช่องอื่นๆไหม –
มิน พีชญา โดนจับ ในผู้ต้องหาฉ้อโกงประชาชน จะนำตัวฝากขังศาลอาญาต่อไป ถ้าพ้นโทษ จะมีโอกาสมาเล่นช่อง 7 ช่องอื่นๆไหม – ตอนนี้ เป็น ผู้ต้องหา ตร สอบ 48 ชั่วโมง แล้ว ฝากขังศาลอาญารัชดาต่อ มิน พีชญา โดนจับ ในผู้ต้องหาฉ้อโกงประชาชน จะนำตัวฝากขังศาลอาญาต่อไป ถ้าพ้นโทษ จะมีโอกาสมาเล่นช่อง 7 ช่องอื่นๆไหม – ถ้าพ้นออกมา จะไว หรือช้า คิดว่า เธอมีโอกาส กลับมาทำงานกับช่อง7 ช่องวัน แบบเก่าไหม กระแสแรงมาก ตอนนี้ คัดค้านประกันตัวไว้ หรือจบแล้ว สำหรับ สถานะนางเอก มิน พีชญา โดนจับ ในผู้ต้องหาฉ้อโกงประชาชน จะนำตัวฝากขังศาลอาญาต่อไป ถ้าพ้นโทษ จะมีโอกาสมาเล่นช่อง 7 ช่องอื่นๆไหม – จะกลับมาดังเปรี้ยง งานเยอะแบบเก่าไหม …
ถ้าเรากินยาคุมเพื่อไม่ให้มีประจำเดือนยาวๆสักสามเดือน จะอันตรายไหมคะ –
ถ้าเรากินยาคุมเพื่อไม่ให้มีประจำเดือนยาวๆสักสามเดือน จะอันตรายไหมคะ – ไม่อยากมีประจำเดือน เพราะเวลามีจะปวดท้องมากๆๆๆ ถ้าเรากินยาคุมเพื่อไม่ให้มีประจำเดือนยาวๆสักสามเดือน จะอันตรายไหมคะ – ถ้ากินยาคุมแบบ21เม็ดต่อกันยาวๆไปเลยสักสามเดือน จะมีอันตรายอะไรไหมคะ ถ้าเรากินยาคุมเพื่อไม่ให้มีประจำเดือนยาวๆสักสามเดือน จะอันตรายไหมคะ – (จริงๆอยากกินยาวแบบเป็นหกเดือนไปเลยด้วยซ้ำ 5555)
ร่วมจิตร ปูดอง ร้านข้าวต้มเก่าแก่ย่านบางกะปิ –
ร่วมจิตร ปูดอง ร้านข้าวต้มเก่าแก่ย่านบางกะปิ – วันนี้พาทุกคนมากินข้าวต้มที่ร้านเก่าแก่ย่านบางกะปิกันค่ะ “ร่วมจิตรปูดอง” ร่วมจิตร ปูดอง ร้านข้าวต้มเก่าแก่ย่านบางกะปิ – สำหรับร้านนี้แม่มณียกให้เป็นตำนานความอร่อยของปูดองของเด็ดตามชื่อร้าน เมื่อก่อนที่นี่ลูกค้าแน่นขนัดมาก มาพักหลังที่มีการสร้างรถไฟฟ้า อาจจะทำให้ลูกค้าลดลงไปเยอะ แต่ความอร่อยก็ยังคงอยู่ ร่วมจิตร ปูดอง ร้านข้าวต้มเก่าแก่ย่านบางกะปิ – เมนูปูดองที่นี่ใช้ปูม้าสดๆ ยังคงดองด้วยน้ำปลากวน และราดมาด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บแบบไม่แคร์ว่าเป็นร้านอาหารจีน ทั้งพริกเอย กระเทียมเอย โรยมาไม่ยั้ง ในขณะที่ทุกคนแย่งกรรเชียงปู แม่มณีก็กินไข่และมันปูตรงกระดองไปเรียบร้อย ซี่โครงหมูอบซอสญี่ปุ่น มาแบบหมูร่อนออกจากกระดูก เนื้อนุ่ม น้ำราดมีส่วนผสมของเต้าเจี้ยวบดญี่ปุ่น รสเค็มๆ หวานๆ แฮ่กึ๊น ฮ่อยจ๊อ รสชาติคือแบบอร่อยมาก กลมกล่อมในทุกคำ โดยเฉพาะฟองเต้าหู้ด้านนอกทอดได้กรอบ ด้านในมีมันหมูที่ผสมมาในไส้ เนื้อปู เนื้อกุ้งมาให้เห็นเป็นชิ้นๆ ไม่ได้เป็นเศษ น้ำจิ้มบ๊วยเข้ากันได้ดีกับ 2 เมนูนี้ ยิ่งกินตอนร้อนๆ แกล้มกับแตงกวา กระเพาะปลาผัดแห้ง ที่เอากระเพาะปลามาผัดกับกุยซ่ายขาว กินกับจิ๊กโฉ่ว และข้าวต้มร้อนๆ เข้ากันได้ดีมาก ยำสามกรอบ ที่ไม่ใช่ยำสามเหนียวเหมือนบางร้าน ถึงแม้ทางร้านจะเอาทั้ง …
อาหารเที่ยงฟรีบริษัท: ข้าวไก่ทอดพริกเกลือ & มันเทศแกงบวด –
อาหารเที่ยงฟรีบริษัท: ข้าวไก่ทอดพริกเกลือ & มันเทศแกงบวด – อาหารเที่ยงฟรีบริษัท: อาหารเที่ยงฟรีบริษัท: ข้าวไก่ทอดพริกเกลือ & มันเทศแกงบวด – ข้าวไก่ทอดพริกเกลือ & อาหารเที่ยงฟรีบริษัท: ข้าวไก่ทอดพริกเกลือ & มันเทศแกงบวด – มันเทศแกงบวด
ทำไม กบข.ไม่ต้องจ่ายเงินในส่วนของค่ารักษาพยาบาลแต่กลับได้สิทธิดีกว่า สปส ที่ถูกหัก 1.5% ออกจาก 5% ที่จ่ายสมทบล่ะ? –
ทำไม กบข.ไม่ต้องจ่ายเงินในส่วนของค่ารักษาพยาบาลแต่กลับได้สิทธิดีกว่า สปส ที่ถูกหัก 1.5% ออกจาก 5% ที่จ่ายสมทบล่ะ? – http://www.ausiris.co.th/content/index/blog/blog-0135.html ทำไม กบข.ไม่ต้องจ่ายเงินในส่วนของค่ารักษาพยาบาลแต่กลับได้สิทธิดีกว่า สปส ที่ถูกหัก 1.5% ออกจาก 5% ที่จ่ายสมทบล่ะ? – “จะได้อะไรบ้างจาก กบข., กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และประกันสังคมในยามเกษียณ 11 Apr 2024 | เมื่อ 01:55 น. ทำไม กบข.ไม่ต้องจ่ายเงินในส่วนของค่ารักษาพยาบาลแต่กลับได้สิทธิดีกว่า สปส ที่ถูกหัก 1.5% ออกจาก 5% ที่จ่ายสมทบล่ะ? – เคยสงสัยกันไหมว่า เงินเดือน ที่โดนหักเข้า กองทุนกบข. (กรณีที่เป็นข้าราชการ) หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ(กรณีที่เป็นพนักงานเอกชน) ทุก ๆ เดือนนั้น เขาเอาไปทำอะไรบ้าง? และจะรู้ได้อย่างไรว่า เงิน ในกองทุนนั้นมีมากพอสำหรับใช้จ่ายในยามเกษียณหรือไม่? และกองทุนของข้าราชการและเอกชนจะมีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน? ข้าราชการ จะมี กองทุนบำเหน็จบำนาจข้าราชการ (กบข.) เป็นระบบการออมเพื่อให้สมาชิกเตรียมเงินเก็บไว้ใช้ยามเกษียณ โดยตามกฎหมายกำหนดให้สมาชิกส่งเงินเข้ากองทุนร้อยละ 3 ของเงินเดือนทุกเดือน แต่สามารถเพิ่มเงินเข้ากองทุนได้เองตามสมัครใจ แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินเดือน ซึ่งจะเรียกเงินนี้ว่า “เงินสะสม” (หักจากเงินเดือน) โดยรัฐบาล (นายจ้าง) จะจ่ายสมทบให้เพิ่มอีกร้อยละ 3 เรียกว่า “เงินสมทบ” (นายจ้างจ่ายสมทบให้) ข้าราชการที่เข้าร่วมกองทุนนี้จะเรียกว่า “สมาชิก กบข.” ตัวอย่างเช่น เริ่มต้นทำงาน ได้รับเงินเดือน 15,000 บาท หักจากเงินเดือนตามกฎหมายร้อยละ 3 = 450 บาท, ออมเงินเพิ่มเองอีกร้อยละ 10 = 1,500 บาท, เงินสมทบร้อยละ 3 = 450 บาท รวมแล้วจะโดนหักเงินเข้ากองทุนเดือนละ 450+1,500+450 = 2,400 บาท/เดือน ในปีแรก หากผลตอบแทนกองทุนโดยเฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 5% และหากอัตราการขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยปีละ 5% ถ้าออมแบบนี้ตั้งแต่อายุ 25 ปีจนถึงอายุ 60 ปี(คิดผลตอบแทนแบบดอกเบี้ยทบต้น) จะทำให้มีเงินเก็บในกองทุน กบข. ทั้งหมด 6,004,955 บาท แต่หากคิดอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยที่ร้อยละ 2 ต่อปี เงินประมาณ 6 ล้านบาทในอีก 35 ปีข้างหน้า จะมีมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาทที่เทียบเท่าปัจจุบัน ส่วนจะได้ผลตอบแทนการลงทุนกี่ % ต่อปี ก็ขึ้นอยู่กับ แผนการลงทุน หรือสัดส่วนการลงทุน แผนผสมหุ้นทวี ที่เน้นลงทุนในหุ้นมากกว่า, แผนตลาดเงิน ที่เน้นลงทุนในเงินฝาก, แผนสมดุลอายุ เน้นลงทุนให้เหมาะสมกับอายุ 60,65,70 ปี เป็นต้น โดยสมาชิกจะได้รับเงินจากกบข. เป็นเงินก้อน และยังได้เงินบำเหน็จ บำนาญ อีกส่วนหนึ่งต่างหาก ส่วน ลูกจ้างประจำ เป็นบุคคลากรในหน่วยงานราชการอีกประเภทหนึ่ง มีบทบาทคือสนับสนุนงานในส่วนราชการต่าง ๆ จะมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพลูกจ้างประจำของส่วนราชการ หรือ กสจ. คล้าย ๆ กับ กบข. ซึ่งจะต้องส่ง “เงินสะสม” (หักจากเงินเดือน) และ “เงินสมทบ” (นายจ้างจ่ายสมทบให้) เข้ากองทุนเหมือนกัน เมื่อเกษียณจะได้รับเงินส่วนนี้เช่นเดียวกัน และยังได้เงินบำเหน็จลูกจ้าง (บำเหน็จปกติ หรือ บำเหน็จรายเดือน) อีกส่วนหนึ่ง ส่วน พนักงานราชการ หรือ ลูกจ้างชั่วคราว คือ เจ้าหน้าที่ที่ทางหน่วยงานราชการจ้างมาทำงานอีกที ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสังกัดหน่วยงานรัฐโดยตรง มีสัญญาการทำงานทุก ๆ 4 ปี ไม่มีกบข.เหมือนข้าราชการและลูกจ้างประจำ แต่จะมีกองทุนประกันสังคม ที่มีบำเหน็จ และบำนาญชราภาพให้ ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสูงสุดได้เพียง 750 บาทต่อเดือน (เงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป) สิทธิ์สูงสุดที่ผู้ประกันตนจะได้จาก บำนาญชราภาพก็คือ เดือนละ 7,500 บาท คือกรณีที่เราได้ค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายตั้งแต่ 15,000 ต่อเดือนขึ้นไป และจ่ายเงินสมทบมาไม่น้อยกว่า 35 ปี จะได้ร้อยละ 50 ของค่าจ้างเดือนสุดท้าย ถ้าจำนวนปีที่จ่ายสมทบน้อยกว่านี้ ก็จะได้อัตราลดหลั่นลงไปกว่านี้ แต่ถ้าผู้ประกันตน สมทบหรือส่งประกันสังคมมาไม่ถึง 180 เดือนหรือ 15 ปี ก็จะได้เป็นเงินก้อน หรือ บำเหน็จ ไม่ได้เป็นบำนาญ ส่วนพนักงานองค์กรเอกชน จะมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) เปิดให้ลูกจ้างหรือพนักงานออมเงินเพื่อเอาไว้ใช้ในยามเกษียณ คล้าย ๆ กองทุน กบข. ที่มี “เงินสะสม “ (หักจากค่าจ้าง) หักจากเงินเดือนทุกๆ เดือน ในอัตรา 2-15 % (เพิ่มเงินเองได้ตามความสมัครใจ) และ “เงินสมทบ” (นายจ้างจ่ายสมทบให้) ที่นายจ้างต้องจ่ายให้ไม่ต่ำกว่าที่ลูกจ้างจ่ายไป เช่น ลูกจ้างเงินเดือน 15,000 บาท , ส่งเงินเข้ากองทุน 10% (1,500) ดังนั้นนายจ้างต้องสมทบให้ไม่ต่ำกว่า 10% (1,500) ทำให้ทุกเดือนจะมีเงินสมทบเข้ากองทุน 3,000 บาท ในปีแรก หากผลตอบแทนกองทุนโดยเฉลี่ยของกองทุนต่อปีเท่ากับ 5% และอัตราการขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยปีละ 5% ถ้าออมแบบนี้ตั้งแต่อายุ 25 ปีจนถึงอายุ 60 ปี(คิดผลตอบแทนแบบดอกเบี้ยทบต้น) จะทำให้มีเงินเก็บในกองทุน สำรองเลี้ยงชีพ ทั้งหมด 7,506,194 บาท แต่หากคิดอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยที่ร้อยละ 2 ต่อปี เงินประมาณ 7.5 ล้านบาทในอีก 35 ปีข้างหน้า จะมีมูลค่าประมาณ 3.75 ล้านบาทที่เทียบเท่าปัจจุบัน ส่วนจะได้ผลตอบแทนการลงทุนกี่ % ต่อปี ก็ขึ้นอยู่กับ แผนการลงทุนที่เราเลือกอีกเช่นกัน (กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเรา ไปลงทุนในกองทุนประเภทไหน) เงินสะสม และผลประโยชน์เงินสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ส่วนที่มาจากเงินเดือนของสมาชิก) จะได้รับทุกกรณีเช่น เกษียณอายุ, ลาออก, เสียชีวิต หรือโอนย้ายกองทุน ส่วนเงินที่มาจากการสมทบของนายจ้าง และผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินสมทบของนายจ้าง จะได้เงินออกมาเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนปีในการทำงาน เช่น ทำงาน 1-5 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินสมทบและผลประโยชน์เงินสมทบ 50% ทำงาน 10 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินสมทบและผลประโยชน์เงินสมทบ 100% ในกรณีที่ลาออก หรือเกษียณอายุ แต่ยังไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้เงินก้อนนั้น ก็สามารถคงเงินไว้ในกองทุนได้โดยติดต่อไปที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ดูแลกองทุนนั้นอยู่ …
ซื้อเครื่องปริ้นยี่ห้อไหนดี 2567 –
ซื้อเครื่องปริ้นยี่ห้อไหนดี 2567 – กำลังหาเครื่องปริ้นงบประมาณ 4000-5000 บาท แต่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดีที่ตอบโจทย์ โดยอยากได้เครื่องปริ้นอิงค์เจ็ท ปริ้นสีบนกระดาษการ์ด 180แกรมได้(ตามรูปตัวอย่าง) ปริ้นไร้ขอบA4 ได้ ปริ้นใบปะหน้าพัสดุ เอกสารอื่นๆใช้ในการขายของออนไลน์ ดูไว้3ยี่ห้อ แต่เลือกไม่ถูกรบกวนผู้รู้ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ ซื้อเครื่องปริ้นยี่ห้อไหนดี 2567 – 1. Canon PIXMA G3010 2. Epson EcoTank L3250 ซื้อเครื่องปริ้นยี่ห้อไหนดี 2567 – 3. Brother DCP-T520W