บันทึกการเดินทาง EP.11 แบกเป้คนละใบ ไปดูสิงโตพ่นน้ำ –

บันทึกการเดินทาง EP.11 แบกเป้คนละใบ ไปดูสิงโตพ่นน้ำ –

19/10/2567

บันทึกการเดินทาง EP.11 แบกเป้คนละใบ ไปดูสิงโตพ่นน้ำ –

มาแย้ววววววว

ทริปนี้มีประสบการ์ใหม่ๆ มากมายมาบอกเล่าให้กันฟัง มันเป็นความสนุกอีกแบบที่เราทั้งสองคนพึ่งจะได้ลองครับ

บันทึกการเดินทาง EP.11 แบกเป้คนละใบ ไปดูสิงโตพ่นน้ำ -

บันทึกการเดินทาง EP.11 แบกเป้คนละใบ ไปดูสิงโตพ่นน้ำ –

รอบนี้เราเดินทางไปสิงคโปร์โดยใช้เวลา 4 วันสามคืน และไม่ได้เดินทางกันแค่ 2 คนเหมือนเดิม เรามีพี่ที่รู้จักกันไปด้วยอีก 2 คนพร้อมด้วยเด็กน้อยอีก 1 คนครับ รวมทั้งหมดเป็น 5 ชีวิต โดยเราจะไปเจอกันที่สิงคโปร์ครับ

ก่อนเดินทางขอสักรูปก่อน

วันที่ 1

เช้านี้เราออกจากบ้าน 7.30 น. เพื่อเตรียมตัวไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง เราออกจากบ้านแถวเซียร์รังสิต เดินทางโดยรถเมล์ไปยังสนามบิน ใช้เวลาไม่นานครับ และสะดวกกว่าเอารถไปเอง เพราะไม่ต้องเสียค่าที่จอดรถ 555+ และอีกเหตุผลที่เราเลือกขึ้นรถเมล์คือเราไม่สัมภาระอะไรครับ มีแค่เป้คนละใบ

เมื่อถึงสนามบินเราก็หาของกิน รอเวลาขึ้นเครื่อง ความน่าเบื่อของเครื่งบินก็คือต้องมารอก่อนเวลาค่อนข้างนาน ถ้าจะมาแบบกระชั้นชิดก็กลัวว่าจะมีปัญหาอะไร แล้วไม่มีเวลาจัดการ เลยเอาแบบแน่นอนไว้ก่อน

เกือบๆ 11.00 เครื่องเราก็ออก

ใช้เวลานั่งมองก้อนเมฆบนเครื่องประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึง “สนามบินชางงี” (Changi) สนามบินที่ดีที่สุดอันดับ 1 แต่ดูเหมือนว่าปีนี้จะเสียแชมป์ไปแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่าสนามบินเค้าดี และสวย ดูทันสมัย มันดีไปทุกอย่าง ที่ชอบมากคือที่นั่งครับ เป็นโซฟานุ่มๆ

เมื่อถึงสนามบินประสบการณ์ใหม่ครั้งแรกของเราก็มาเลยครับ คุณผู้หญิงเค้าไม่ผ่าน ตม. ครับ 555+ โดนพาตัวไปสอบสวนอยู่ประมาณ 15 นาที นึกว่าจะไม่ได้ไปต่อแล้วครับ เหตุผลที่ไม่ผ่านก็คือหน้าไม่เหมือนกับใน Passport ครับ เพราะคุณเธอไปทำจมูกมาใหม่

ระหว่างนั่งรอ Bus ในสนามบินเพื่อไปต่อรถไฟฟ้า

เมื่อเราผ่านมาได้ ก็รีนั่งรถไฟฟ้าต่อไปยังโรงแรมที่เราจองไว้คือ V Hotel Lavender Singapore โรงแรมนี้ดีตรงที่ว่าออกจากรถไฟฟ้าก็ถึงเลย สะดวกสบายมากครับ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปที่โรงแรมไว้เลยครับ

เมื่อมาถึงจัดการ Checkin เรียบร้อย หาข้าวกิน เราก็ออกไปลุยสิงคโปร์กันครับ แต่เนื่องจากวันนี้เราค่อนข้างเหนื่อยจากการเดินทาง เราจึงใช้บริการ Grab ในการเดินทาง

ที่แรกที่เราจะไปในวันนี้คือ Singapore Flyer ไปขึ้นชิงช้าสวรรค์กัน

วิวจากด้านบน เมื่อชิงช้าขึ้นถึงจุดสูงสุด

นั่งไงเรื่อบนยอดตึก ที่ใครๆ มาสิงคโปร์ก็ต้องมีรูปนี้ติดไปด้วย

กำลังชี้ให้เด็กน้อยดูสิงโตพ่นน้ำ ที่มองจากมุมนี้ก็จะเห็นอยู่ไกลๆ

ขอรูปคู่สักหน่อย

วิวสิงคโปร์ยามเย็น

มันใหญ่กว่าที่เคยเล่นตามงานวัดแถวบ้านสมัยเด็กๆ หลายเท่าเลย 555+

หนึ่งรอบจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เพราะมันค่อนข้างใหญ่ และก็หมุนช้ามาก จากนั้นเราก็เดินทางต่อไปยัง Garden by the bay จากที่นี่เราจะเดินไปก็ได้นะ ดูวิวไปเรื่อยๆ แต่วันนี้เราเหนื่อย เลยใช้บริการ Grab เหมือนเดิมครับ

กลางคืนที่นี่เค้าจะมีโชว์ไฟสวยๆ คนมาดูกันเยอะมาก

เมื่อโชว์จบ เราก็กลับที่พัก ก่อนเข้านอนคืนนี้ แวะเติมของหวานกันที่หน้าโรงแรมสักหน่อย และก็แวะซื้อน้ำเพราะบนห้องที่โรงแรมเค้าไม่มีน้ำให้น้ำขวดใหญ่ประมาณ 70 กว่าบาทครับ แอบแพงอยู่เหมือนกันสำหรับที่บ้านเราประมาณ 15 บาท 555+

วันแรกก็จบลง อาบน้ำนอนหลับสนิทมากกก เช้ามาพี่งรู้ว่าเมื่อคืนฝนตก ฟ้าแรงมาก เพราะพี่เค้าบอก แต่ก็ถือว่าเป็นโชคดีของเราที่ฝนตกตอนกลางคืนแค่ครั้งเดียว ทำให้เที่ยวรอบนี้เรารอดฝนมาได้แบบสบายๆ

วันที่ 2

เช้านี้เราลงมากินข้าวที่หน้าโรงแรม

มีเด็กน้อยมาขอร่วมวงด้วย

เมื่ออิ่มแล้วเราก็ออกเดินทางไปยัง Little India วันนี้พลังเต็ม เดินทางด้วยรถไฟฟ้า แล้วก็เดินต่อไปอีกประมาณ 1 km.

ที่นี่ก็ดูวุ่นวายสมกับเป็นอินเดียดีครับ 555+ แต่เสียงแตรไม่ค่อยมี

ให้บรรยากาศที่ทำให้นึกถึงตอนไปอินเดียครับ

เราแทบจะหมดพลังกันอยู่ที่นี่ เพราะต้องเดินเยอะมาก และอากาศก็ค่อนข้างร้อน จากนั้นเราเลยชวยกันไปหาที่ตากแอร์เย็นๆ กันดีกว่า เลยมุ่งหน้าไปยัง Art Science Musuem

ข้างในมีของเล่น มีไฟสวยๆ เยอะครับ แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายมาเพระมันมืดเลยถ่ายยากครับ

หลังจากนั้นเราก็เดินไปยัง Merlion จะได้ไปเห็นสิงโตพ่นน้ำใกล้ๆ แล้ววววว

เย้ๆๆๆ เป้าหมายทริปนี้ของผมสมบูรณ์แล้วววว

บรรยากาศตอนเย็นครับ

นั่งพักหาอะไรกินเอาแรงกันสักหน่อย เราก็ไปต่อยัง Clarke Quay เพื่อไปล่องเรือดูไฟ แสงสียามค่ำคืน ซึ่งเรือที่เรานั่งก็จะพาเราวนมาตรงนี้เหมือนเดิมครับ และก็พารากลับไปที่เดิม หรือใครจะมาลงตรงนี้ก็ได้เหมือนกันครับ

ตอนเย็นนั่งเล่นริมน้ำ เดี๋ยวเราจะขึ้นเรือจากฝั่นตรงข้าม

ภาพบรรยากาศบนเรือครับ

เมื่อล่องเรือเสร็จก็มาหาของกินก่อนกลับโรงแรมครับ มื้อนี้เราไปฝากท้องไว้ที่ Songfa Bak Kut Teh ซึ่งผมก็พึ่งจะรู้จัก Bak Kut Teh ครั้งแรก และก็คิดว่าถ้าปรุงเปรี้ยวๆ แล้วก็เผ็ดอีกนิด มันก็คือต้มเล้งนี่เอง 555+

วันที่ 3

วันนี้เราออกเดินทางไปยัง Universal Studio กินอาหารเช้าแถวโรงแรมเสร็จก็ออกทางไปยัง Universal Studio แต่เราเลือกนั้งกระเช้าไป ตอนแรกคิดว่าถึงเลย ที่ไหนได้ต้องเดินไปต่อรถไฟอีก 1 สถานี แต่ก็ถือว่าได้นั่งกระเช้าดูวิวสวยๆ

ถึงแล้วจร้าาาาา เป้าหมายหลักของคุณผู้หญิงเค้า

เข้าไปเล่นกัน Transformers มา หมดแรงเลย แต่สนุกดี

ได้ของเล่นติดมือมา 1 ชิ้น

[img]

https://f.ptcdn.info/916/08

ชื่อสินค้า:

สิงคโปร์ , Singapore

คะแนน:

CR – Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

– จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้

– ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ