เลิกกับแฟน เพราะว่าความฝันไม่ตรงกัน –
พอดีผมกับแฟนเลิกกันครับ เธอเป็นนายหน้าประกัน วิ่งงานตจว กลับมากรุงเทพ เสาร์-อาทิตย์ ส่วนผมทำโปรแกรมเมอร์งานประจำ อยู่แต่ห้อง
เลิกกับแฟน เพราะว่าความฝันไม่ตรงกัน –
อยากถามพี่ๆเพื่อนๆว่าถ้าความฝันต่างกันยังคงรักกันได้มั้ย
สาเหตุการเลิกกันคือ เธอบอกว่าเป้าหมายไม่ตรงกัน แก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้ เค้าไม่อยากเปลี่ยนความคิดผม ไม่อยากเสียเวลา อยากเจอคนที่เป็นผู้นำทางความคิด และมีเป้าหมายคล้ายๆเค้า พากันไปสู่เป้าหมายได้
เลิกกับแฟน เพราะว่าความฝันไม่ตรงกัน –
สาเหตุที่ทะเลาะกัน มีอยู่เรื่องเดียวคือเธออยากให้ผมลาออกจากงาน แล้วไปช่วยกันสร้างอนาคตกับเธอ แค่นี้เลย พูดแบบนี้ทุกครั้ง ว่าเมื่อไหร่จะมาช่วยกัน
แต่ที่ผมสงสัยคือ ที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกที่เธอก้าวไปทำงานผมซัพพอตเธอ คอยเคียงข้างเธอ เช่น พาเธอไปสมัครงาน พาเธอไปสัมมนา พาไปประชุม คอยให้กำลังใจเธอถ้ายอดขายไม่ดี มีเรื่องเครียดๆ ที่พูดแบบนี้ผมไม่ได้เคลมเรียกร้องบุญคุณนะคับ แค่อยากบอกว่าที่ผ่านมาก็พยายามช่วยเหลือเค้าในด้านอื่นๆ ยกเว้น การขาย การหาทีมงาน หรือเนื้อหาของงาน แนะนำในบางเรื่องที่พอทำได้ แต่สรุปวันนี้เราแตกหักกันเพราะเธอบอกว่าเป้าหมายเราต่างกัน เธออยากเติบโตในสายงานไวๆเพื่อครอบครัว เธอมั่นใจว่าทำได้เลยอยากให้ผมเป็นช่วยกัน ในมุมของผมคิดว่าเราช่วยกันซัพพอตความฝันของแต่ละคนก็ได้รึป่าว เพราะที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยทำเรื่องไม่ดี พยายามทำให้สบายใจกัน เพราะว่าเราก็โตๆกันแล้ว รู้ว่าอาชีพเขาก็กดดัน แต่อาชีพผมก็กดดันเหมือนกันแต่คนละแบบ
ลองหาทางออกกันแล้ว ซึ่งในมุมผมทำงานใครทำงานมันก็คือตรงกลางของความสัมพันธ์ แล้วก็ช่วยซัพพอตกัน พยายามหาทางแก้ไข แต่เธอบอกกันผมว่าเดี๋ยวมันก็กลับมาทะเลาะกันแบบเดิมเสียเวลากันไปเปล่าๆ เธอก็จะตั้งคำถามเดิมกับผม มันเหนื่อยสำหรับเธอ เธอไม่อยากเปลี่ยนมาผมแล้ว เพราะมันไม่มีตรงกลาง มีแค่ผมลาออกกับผมไม่ลาออก แล้วคือผมเคยบอกว่าถ้าไปช่วยทำให้เขาเติบโตในสายงาน ผมจะเข้าไปเก็บเงิน เพื่อกระโดดออกมาลองหาทำธุรกิจตัวเองอีกทาง เธอก็บอกไม่ได้ เธอมองว่าผมเข้าไปก็เหมือนเข้าไปแค่ช่วยเธอ แต่ไม่คิดจะเติบโตไปด้วยกัน เรื่องทั้งหมดประมาณนี้ครับ
ปล.คำถามคือว่า ผมคิดถูกไหมในกรณีเรามีความฝันต่าง ทำงานคนละอาชีพ แต่ก็เข้าใจกันและกันได้และควรซัพพอตอนาคตกัน แล้วอีกคำถามคือ ความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอดแล้วมันจบลงแบบนี้ ถ้ามีแฟนใหม่ในอนาคตจะแก้ไขปัญหาแบบนี้ยังไง
ปล.อยากให้มองเรื่องนี้แบบไม่มีมือที่3นะครับ