รำลึกความหลัง มานะ มานี ปิติ ชูใจ ตอนที่ ‘ดราม่า’ ที่สุด “แม่ของชูใจ” –
กลับมาต่อกันอีกบทครับ กับตอนที่ดราม่าสุดๆ และเป็นตอนอวสานของ มานะ มานี ปิติ ชูใจ ใน Season ที่ 6
รำลึกความหลัง มานะ มานี ปิติ ชูใจ ตอนที่ ‘ดราม่า’ ที่สุด “แม่ของชูใจ” –
เมื่อชูใจได้พบกับแม่ที่คิดว่าตายไปแล้ว!
แม่ของชูใจพยายามไขว่คว้าเอาตัวชูใจมากอด แต่ชูใจปัดมือและถอยหนี
รำลึกความหลัง มานะ มานี ปิติ ชูใจ ตอนที่ ‘ดราม่า’ ที่สุด “แม่ของชูใจ” –
“แม่ของฉันตายไปแล้ว! ฉันไม่มีแม่ มีแต่ย่ากับอา ย่าเลี้ยงฉันมาถึงสิบสามปี ต่อไปนี้ฉันจะเลี้ยงย่า คุณกลับไปเสียเถิด แม่เคยอยู่อย่างไรก็อยู่ไป อย่านึกว่ามีฉัน…”
แม่ของชูใจร้องไห้ปานใจจะขาด….
ดราม่าสุดๆไปเลยใช่ไหมครับ มานั่งย้อนนึกดูแทบไม่เชื่อเลยว่านี่เป็นแบบเรียนเด็กประถม ต่างกับปัจจุบันที่แต่งได้ค่อนข้างจะ ‘โลกสวย’ เกินไป
(สปอยล์)
แต่แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ย่าของชูในก็ตาย
ชูใจจึงจำเป็นต้องไปอยู่กับแม่ที่เพิร์ท อย่างเลี่ยงไม่ได้
ส่วนเจ้าสีเทานั้นต้องทิ้งไว้กับอาและมานี เพราะเอาไปด้วยไม่ได้ (แหงล่ะ ออสเตรเลียอย่างที่รู้กัน ขนาดส้มลูกเดียวยังไม่ให้เข้า….นี่แมว!)
ต่อมาชูใจได้ร่ำเรียนเป็นดีไซน์เนอร์ และแต่งงานกับบุตรชายของผู้จัดการโรงงานเครื่องหนังชื่อ ปีเตอร์ กลายเป็นได้ดิบได้ดีไป
(หาอ่านได้ใน Extended version ของอาจารย์รัชนี “ทางช้างเผือก”)
ส่วนใครที่ไม่ทราบว่าทำไมแม่ของชูใจถึงต้องทิ้งไปตั้งแต่แรก เรื่องของเรื่องคือแม่ของชูใจเป็นลูกสาวของตระกูลที่ร่ำรวยในกรุงเทพฯ ปู่ย่าของชูใจไม่ชอบและรังเกียจที่ลูกสาวไปชอบพอกันกับพ่อของชูใจซึ่งเป็นนายช่างจากบ้านนอก ฐานะยากจน แม่กับพ่อของชูใจจึงหอบหิ้วหนีตามกันมาอยู่กับย่า เมื่อคลอดชูใจแล้ว ทางฝ่ายพ่อกับแม่ของผู้หญิงก็มาลากตัวแม่ของชูใจกลับไป เอาไปใส่ตะกร้าล้างน้ำแล้วส่งไปแต่งงานกับเศรษฐีซึ่งเป็นหุ้นส่วนกิจการเครื่องหนังในออสเตรเลีย (เหมือนละครไม่มีผิด) ชูใจจึงกำพร้าแม่นับแต่นั้น ต่อมาพ่อก็หายสาปสูญไปในป่าอีก ย่าจึงโกหกชูใจว่าทั้งพ่อและแม่ตายไปแล้วเพื่อไม่ให้สะเทือนใจ
ส่วนพ่อของชูใจนั้นตายไปแล้วจริงๆ ต่อมามานีเป็นคนไปพบศพในถ้ำในป่าแห่งหนึ่ง มีรูปชูใจอยู่ในกระเป๋าเสื้อ
ชีวิตเธอดราม่าจริงๆนะชูใจ…
แก้ไขข้อความเมื่อ