ขอบตาดำ จากภูมิแพ้ แก้ยังไง? 7 วิธีรักษาเบื้องต้น ดังนี้

ขอบตาดำ จากโรคภูมิแพ้ (Allergic Shiner) คือ การที่ผิวบริเวณใต้ดวงตามีสีดำคล้ำจากโรคภูมิแพ้ โดยหลัก ๆ แล้วมักจะเกิดจากภูมิแพ้จมูกอักเสบ หรือภูมิแพ้ตา ผู้ป่วยภูมิแพ้จมูกอักเสบมักจะมีอาการน้ำมูกไหล คัดจมูก คันจมูก และจาม ผู้ป่วยที่มีอาการคัดจมูกเรื้อรัง เยื่อบุจมูกมักจะบวม การบวมจะทำให้เลือดดำไหลผ่านได้ยาก เลือดดำจึงคั่งอยู่บริเวณใต้ตาล่างทำให้ผิวบริเวณใต้ตาล่างดำนั่นเอง ส่วนผู้ป่วยภูมิแพ้ตา จะมีอาการคันตา เคืองตา อาการเหล่านี้ทำให้เผลอขยี้ตาแรง ๆ ส่งผลให้ผิวหนังรอบดวงตาดำคล้ำ หรือมีรอยเหี่ยวย่นเกิดขึ้น
7 วิธีรักษา ขอบตาดำ จากโรคภูมิแพ้

7 วิธีรักษา ขอบตาดำ จากโรคภูมิแพ้ 

1. พบแพทย์เพื่อรักษาอาการภูมิแพ้ให้ดีขึ้น : อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าขอบตาดํานี้ ต้นเหตุมันเกิดจากโรคภูมิแพ้ ฉะนั้นการไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการภูมิแพ้ให้ดีขึ้นถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ
2. หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ : เช่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ และฝุ่นละออง จะยิ่งทำให้อาการภูมิแพ้แย่ลง ซึ่งบางคนอาจจะแพ้ไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรเช็กตัวเองอยู่เสมอว่าเราแพ้อะไรบ้าง
3. พยายามอย่านอนดึก และพักผ่อนให้เพียงพอ : การนอนดึกและการพักผ่อนไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ร่างกายของเราอ่อนแอ ทำให้อาการภูมิแพ้ที่เป็นอยู่แย่ลง
4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ (อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง) : การออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ทำให้อาการภูมิแพ้ดีขึ้น และเมื่ออาการภูมิแพ้ดีขึ้นขอบตาที่ดำก็จะค่อย ๆ จางลง
5. ดื่มน้ำเยอะ ๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว : เมื่อร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ เซลล์ผิวก็จะกระจ่างใส ส่งผลให้รอยดำคล้ำใต้ตาจางลง
6. หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณดวงตา : เช่น การแกะ เกา ขยี้ตาแรง ๆ เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ผิวบริเวณดวงตาระคายเคือง ดำคล้ำขึ้น และอาจมีรอยเหี่ยวย่นเกิดขึ้นอีกด้วย
7. ทาอายครีมที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน : เม็ดสีเมลานินก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขอบตาดำได้ ฉะนั้นควรหาอายครีมที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีมาอย่าง Niacinamide, Vitamin C, Arbutin หรือ Licorice มาใช้ควบคู่ไปด้วย

3 วิธีทําให้ ขอบตาหายดํา แบบเร่งด่วน

วิธีรักษา ขอบตาดำ ด้วยวิธีทางการแพทย์ ที่เห็นผลได้แบบเร่งด่วน และแก้ปัญหาได้ชัดเจนมีหลายวิธีครับ ได้แก่

ฉีดเมโส ลด ขอบตาดำ

การฉีดเมโส เป็นการทำทรีตเม้นท์รูปแบบหนึ่ง โดยการนำตัวยาที่มีส่วนผสมของสารบำรุงผิว และวิตามินต่าง ๆ ฉีดเข้าสู่ชั้นผิวเพื่อแก้ปัญหาโดยตรง เห็นผลเร็วและดีกว่าการทาครีมทั่วไป ช่วยทำให้ขอบตาดำกลับมาสว่างขึ้น ผิวแข็งแรงมากขึ้น

ปรับสภาพผิวแบบเปลี่ยนผิวด้วย Laser หรือ การรักษาด้วย IPL แสงเข้มข้น

วิธีเหล่านี้สามารถรักษารอยคล้ำใต้ตาได้ แต่หลังทำต้องดูแลตัวเองเป็นอย่างดี และต้องใช้เวลาพักฟื้นหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 3-6 เดือน แต่ถ้าปัญหาขอบตาดำเพราะอายุมากขึ้น หรือมีการทรุดตัวของกระดูกทำให้เบ้าตาลึก เห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตา Laser หรือ IPLไม่สามารถแก้ไขได้ตรงจุดครับ วิธีรักษาขอบตาดำ ทางการแพทย์ที่ได้ผลแบบเร่งด่วน หวังผลลัพธ์ได้ชัดเจน และมีความปลอดภัยสูง คือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครับ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำและขอบตาดำมาก ได้อย่างเห็นผลและตรงจุดที่สุดครับ เพราะฟิลเลอร์จะช่วยปกปิดความคล้ำของเม็ดสีและเส้นเลือดบริเวณใต้ผิวหน้า ช่วยเติมเต็มและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณใต้ตา ทำให้ขอบตาดำมาก ๆ ดูสดใส สดชื่นขึ้น การนอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยังแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำจากกรรมพันธ์ุ ภูมิแพ้ และอายุที่มากขึ้น มีปัญหากระดูกบริเวณใต้ตาที่ยุบตัวลง ทำให้ดูตาโบ๋ ตาลึกได้อีกด้วย ข้อดีคือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังการรักษาครับ

วิธีป้องกันไม่ให้ขอบตาดำ ร่องใต้ตาลึก

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาตาดำคล้ำ เกิดได้จากหลายสาเหตุ การป้องกันสามารถทำได้โดยเริ่มจากการดูแลตัวเอง และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการคล้ำรอบดวงตา เช่น การขยี้ตาบ่อย ๆ การใช้เครื่องสำอางรอบดวงตาบางชนิด การอดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ รวมทั้งความเครียด นอกจากนี้หากสาเหตุของขอบตาดำ เกิดจากโรคบางชนิด เช่น โรคหวัด โรคภูมิแพ้ ก็สามารถรับประทานยาเพื่อรักษา อาการขอบตาดำจะหายไปพร้อมกันครับ กรณีที่สาเหตุมาจากฮอร์โมน กรรมพันธ์ุ หรืออายุที่มากขึ้น กรณีเหล่านี้ป้องกันได้ยาก แต่ก็สามารถรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์แบบต่าง ๆ ตามที่ได้แนะนำไปข้างต้น ขอบคุณข้อมูลจาก ลิงค์